สายเรือผู้รับขนส่งสินค้ากำลังจะปรับโครงสร้างเส้นทางการขนส่งสินค้าในโซนเอเชียอีกครั้งหลังพบว่าปริมาณตู้สินค้าสินค้าที่รับขนส่งต่อเที่ยวลดลงจำนวนมากหลังจากนี้ผู้นำเข้า-ส่งออกจะพบกับการปรับลดจำนวน เที่ยวเรือและการยกเลิกไม่เข้ามาให้บริการขนส่งสินค้า มีการเปลี่ยนเรือ เลื่อนวันที่จะเข้ามาให้บริการส่งสินค้าขาเข้าและรับขนส่งสินค้าขาออก การปรับโครงสร้างดังกล่าวจะส่งผลให้ความต้องการขนส่งสินค้ามีมากกว่าจำนวนผู้ให้บริการดังนั้นค่าระวางก็จะมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นอบ่างแน่นอน

การขนส่งสินค้าทางอากาศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากความต้องการของผู้บริโภคหลังติดเชื้อโควิด-19 ลดลง โดยผู้นำเข้าจะไม่มีการสต๊อกสินค้าปริมาณมากๆ เพราะสถานการณ์ต่างๆ ที่ส่งผลด้านลบต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคนั้นมีหลายปัจจัย ผู้นำเข้าจึงทำการขายสินค้าให้พอดีกับความต้องการของผู้บริโภค ณ ช่างเวลานั้นๆ จะเห็นได้ว่าสินค้าที่ทำการส่งออกทางอากาศจะไม่ซ้ำกัน มีการเปลี่ยนประเภทสินค้าไปเรื่อยๆ โดยการทำตลาดแบบนี้ต้องอาศัยการขนส่งทางอากาศเท่านั้น ดังนั้นแนวโนมปริมาณสินค้าที่ขนส่งทางอากาศเติบโตอย่างมากในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้และอาจจะส่งผลดีถึงไตรมาสที่สองของปีหน้าอย่างแน่นอน

น้ำหนักสินค้าที่บรรจุเข้าตู้ไปในตู้คอนเทนเนอร์เพื่อขนส่งสินค้าทางเรือระหว่างประเทศจะต้องมีความเหมาะสมกับความแข็งแรงของตู้คอนเทนเนอร์ สำหรับตู้คอนเทนเนอร์ที่มีใช้กันโดยทั่วไปจะเป็นตู้ที่ผ่านการใช้งานมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี มีสภาพ 80% ดังนั้น หากสินค้ามีน้ำหนักมากๆ อาจทำให้พื้นตู้คอรเทนเนอร์ไม่สามารถรับน้ำหนักได้เมื่อมีการยก การเคลื่อนย้ายในท่าเรือหรือการยกเข้าไปบรรจุลงในเรือก็มักเกิดเหตุการณ์ “ตู้แตก” คือพื้นตู้ไม่สามารถรับน้ำหนักสินค้าได้เกิดการฉีกขาดสินค้าร่วงหล่นออกมา

ภัยธรรมชาติเป็นสาเหตุลำดับต้นๆ ที่ทำให้การขนส่งสินค้าล่าช้า เรือดีเลย์จากพายุ เรือเข้าเทียบท่าไม่ได้จากการลดลงของระดับน้ำ หมอกที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสถาพอากาศ จากสถานการณ์ดังกล่าวเรือจะต้องจอดเทียบท่าทันทีด้วยกฎข้อบังคับของเรือขนส่งสินค้าทาทะเลและการชดใช้ค่าเสียหายของผู้ให้ประกันเรือขนส่งที่หากพบว่ามีอุบัติเหตจากการประมาทก็สามารถระงับการชดใช้ค่าเสียหาย ดังนั้นในช่วงเดือน สิงหาคม กันยายน พฤศจิกายน เรือจะเทียบท่าช้ากว่ากำหนด 3-5 วัน หรือที่เรียกว่าเรือดีเลย์

ผู้นำเข้าสินค้าจะต้องวางแผนสต๊อกสินค้าเพื่อขายให้ทันเวลาโดยจะมีการส่งสินค้าสินค้าในเดือนกันยายนและตุลาคมเพื่อให้ทันกับการขนส่งสินค้าที่ใช้เวลาขนส่ง 20 วันสำหรับโซนยุโรปและ 30 วันสำหรับการเดินทางไปอเมริกาในเดือนแห่งการจับจ่ายซื้อของช่วง พฤษจิกายนถึงธันวาคมของทุกปี การขนส่งทางเรือจะถูกเรียกใช้บริการมากที่สุด ตามมาด้วยการขนส่งสินค้างอากาศที่เป็นตัวเลือกรองสำหรับสินค้าที่ต้องการเร่งด่วนและมีมูลค่าสูง ดังนั้นการส่งออกในช่วงเวลาดังกล่าวจะต้องทำการวางแผนจองระวางล่วงหน้า

ท่าเรือจีน port shanghai, Port Ningbo, Port Shekou  ออกของช้า 7-10 วัน ผลกระทบจากปัญหาการ ล็อกดาวน์ ก่อนหน้านี้ พบว่าสินค้าส่วนใหญ่ยังขนออกจากท่าเรือไม่หมด ทำให้พื้นที่ท่าเรือที่ใช้ได้มีจำนวนน้อยมาก คาดว่าต้นเดือนกรกฎาคม 2565 นี้จะมีพื้นที่เพิ่มมากขึ้น

New Bunker Factor!!!  ผลกระทบจากการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน ส่งผลกระทบต่อสายเรือผู้รับขนส่งสินค้า ล่าสุดมีการแจ้งปรับ BAF : Bunker Surcharge Factor ในเส้นทางหลักคือ เอเชียม ยุโรป ตะวันออกกลาง และสหรัฐอเมริกา โดยแต่ละสายเรือจะให้ราคาไม่เท่ากัน เริ่มตั้งแต่ 135 – 630 เหรียญสหัฐ โดยอยู่บนพื้นฐานเกี่ยวกับระยะทางการขนส่ง ความแออัดของเรือ ความยากง่ายสำหรับการให้บริการของท่าเรือที่รับสินค้า

โดยร้อยละ 80 ของสินค้าขนส่งทางอากาศ จะถูกขนส่งโดยเครื่องขนส่งผู้โดยสาร ( Passenger Flight ) การเดินทางของคนจะมีสัมภาระและของติดตัวอื่นๆ ที่ต้องใช้พื้นที่ร่วมกันกับสินค้าในการขนส่ง ส่งผลให้สินค้าตกเครื่องแนะนำสินค้าที่มีน้ำหนักตั้งแต่ 350 กิโลกรัม จะต้องตรวจสอบสถานะการขนส่งในวันที่ส่งออกทุกครั้ง

จีนเริ่มคลายมาตรการล็อกดาวน์ เซี่ยงไฮ กวางโจว ทำให้การขนส่งสินค้าทางอากาศมีสายการบินเริ่มกลับเข้ามาให้บริการอีกครั้งถึงแม้ว่าในช่วงแรกนี้จะมีข้อจำกัดเกี่ยวกับปริมาณขนส่งต่อเที่ยวเพราะยังมีผู้ให้บริการจำนวนน้อยรายประกอบกับสินค้าจำนวนมากยังตกค้างอยู่ในคลังของสนามบินต่างๆ ในจีนเป็นจำนวนมา การจองระวางขนส่งจึงต้องทำล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 14 วัน และค่าระวางขนส่งทางแอร์เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ50 จากราคาค่าระว่างช่วงก่อนที่จะมีการล็อกดาวน์ และสายการบินจะแจ้งราคาต่อเที่ยวขนส่งไม่มีการให้ราคาล่วงหน้าเหมือนการขนส่งไปประเทศอื่นๆ

การกลับมาระบาดอีกครั้งขงโควิด-19 ในมหานครเซี่ยงไฮ้ มีการล็อกดาวน์พื้นที่รอบๆ ท่าเรือเซี่ยงไฮ้ ทำให้การขนส่งสินค้าไม่สามารถขนส่งไปยังผู้รับปลายทางสุดท้ายได้ การส่งออกก็ไม่สามารถขนส่งสินค้ามาท่าเรือได้ สายเรือและผู้นำเข้าส่งออกต้องเปลี่ยนไปใช้ท่าเรือหนิงโป (Ningbo port) ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 220 กิโลเมตร